วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ข้อห้ามเคหะศาสตร์

 ข้อห้ามเคหะศาสตร์

        ข้อห้ามของเคหะศาสตร์ที่ช่วยทำให้บ้านของท่านเป็นบ้านที่อยู่ร่มเย็นเป็นสุขนั้น มีมากมายหลายข้อ ข้อห้ามทางเคหะศาสตร์มากมายหลายข้อที่ยกขึ้นมานั้นล้วนประกอบไปด้วยเหตุผลในอันที่จะทำให้ คนรักบ้านทุกๆท่านอยู่เย็นเป็นสุข แต่ข้อห้ามต่างๆ ก็มิใช่กฏเกณฑ์ตายตัวที่ต้องปฏิบัติ หากมีความจำเป็นจริงๆ ข้อห้ามต่างๆ ก็สามารถดัดแปลงประยุกต์แก้ไขได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ขอยกตัวอย่างข้อห้ามที่เป็นข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกทำเลที่ตั้งกับพื้นที่ในตัวบ้านกัน
        - ห้ามสร้างบ้านที่มีถนนรอบล้อมทั้งสี่ด้าน เนื่องด้วยบ้านที่มีถนนรอบล้อมนั้น ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจะหาความสงบได้ยาก เนื่องจากเสียง, ฝุ่น, ควันจากการจราจรจะเข้ามารบกวนผู้อยู่อาศัยตลอดเวลา เกิดผลเสียต่อสุขภาพจิต สุขภาพกายทำให้พลังชีวิตของท่านลดลงได้
        - ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่กลางลานบ้าน หรือปลูกบ้านล้อมต้นไม้ใหญ่ เนื่องจากต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และสูง มีโอกาสที่กิ่งไม้แห้งจะหล่นลงมาสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่านได้ นึกถึงเวลามีพายุฝน หรือลมกรรโชกแรง จะทำให้ต้นไม้ที่เอนตามกระแสลมสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่าน และอาจหักโค่นลงมาทับสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่านได้
        - ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ในแนวเดียวกับประตูบ้าน เป็นข้อห้ามอีกข้อเกี่ยวกับต้นไม้ เนื่องด้วยการปลูกต้นไม้บดบังทางเข้าบ้าน นั้นสร้างความสับสนให้กับกัลยาณมิตรที่มาเยี่ยมเยือนท่าน ตลอดจนต้นไม้หน้าบ้านนั้นทำให้การปรับใช้พื้นที่หน้าบ้านของท่านทำได้ยากขึ้นด้วย
        - ห้ามปลูกบ้านตั้งอยู่บนทำเลที่สร้างความรำคาญใจ ท้อแท้และหดหู่ บันทอนพลังชีวิตของท่าน เช่น ป่าช้า สถานีตำรวจ โรงพยาบาล เรือนจำ หรือศาล เป็นต้น

ภาพ:Bangkok21.jpg

        - ห้ามมีร่องน้ำไหลผ่านกลางที่ดินหรือบ้าน เนื่องมาจากว่าร่องน้ำที่อยู่กลางบ้านนั้น อาจก่อให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนั้นยังมีการดูแลรักษาที่ยากจนอาจจะเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค อันเป็นอันตรายต่อท่านได้ การมีร่องน้ำอยู่กลางบ้านของท่านนั้น ก็มีลักษณะเหมือนบ้านของท่านแยกออกจากกันเหมือนเมืองอกแตก อันเป็นลักษณะที่ไม่ดี
        - ห้ามปลูกบ้านคร่อมบ่อน้ำหรือตอไม้ บริเวณที่มีตอไม้นั้นการขุดหลุมหรือปรับพื้นที่ทำได้ยาก เนื่องจากมีรากไม้ที่แม้จะตายแล้วแต่ก็มีความแข็งแรงยากแก่การรื้อถอนแต่พอตอไม้เริ่มผุพังก็อาจเป็นที่อยู่ของปลวก, มด เป็นต้น อาจเป็นอันตรายต่อบ้านท่านได้ ส่วนบ่อน้ำเก่านั้นเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของดินน้อยกว่าส่วนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีการถมอย่างดีแล้วก็ตาม นอกจากนี้บ่อน้ำเก่าบางแห่งยังเป็นตาน้ำที่มีน้ำซึมตลอดเวลาอีกด้วย จะเห็นว่าทั้งสองส่วนนี้จะมีผลต่อการวางโครงสร้างบ้านของท่าน ขอให้คนรักบ้านพิจารณาข้อนี้กันให้ดี
        - ห้ามสร้างบ้านอยู่ในน้ำ โดยปกติในอากาศจะมีความชื้นอยู่ในระดับที่พอเหมาะ (เรียกว่าภาวะน่าสบาย ประกอบไปด้วยอุณภูมิ ความชื้น การถ่ายเทอากาศ) หากบ้านท่านอยู่บนน้ำแล้วความชื้นในอากาศก็จะมีมากขึ้นส่งผลให้ท่านรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว มีโอกาศเป็นโรคทางเดินหายใจได้ นอกจากนั้น โครงสร้างของบ้านที่อยู่ระหว่างน้ำและอากาศ ก็มีโอกาสจะสึกกร่อนได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย
        - ห้ามสร้างสระน้ำใหญ่ติดกับตัวบ้าน เช่นเดียวกับข้อที่แล้ว การที่บ้านท่านจะมีสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ติดกับตัวบ้านนั้น นอกจากสระน้ำที่มีขนาดใหญ่นั้นจะข่มบดบังรัศมีของบ้านท่านแล้วนั้น ก็ยังมีเรื่องความชื้นที่สระน้ำขนาดใหญ่ถ่ายเทให้กับอากาศในปริมาณที่มากจนเกินไปได้ และยังต้องระวังการทรุดตัวของโครงสร้างบ้าน แต่หากเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบ, แม่น้ำ ไม่เป็นไร
        - ห้ามขุดบ่อน้ำไว้หลังบ้าน เพราะหลังบ้านเป็นบริเวณที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมสักเท่าไร อีกทั้งยังมืดและอาจจะรก ร้าง การมีบ่อน้ำอยู่หลังบ้านจึงเป็นอันตราย อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนการดูแลรักษาทำได้ยาก การใช้ประโยชน์จากบ่อน้ำก็ดูไม่คุ้มค่าสักเท่าไร
        - ห้ามก่อสร้างกำแพงก่อนการสร้างบ้าน ในการสร้างบ้านนั้นท่านจำเป็นต้องขนย้ายวัสดุต่างๆ เข้าออกอยู่ตลอดเวลา หากท่านสร้างกำแพงบ้านก่อนแล้วนั้น การขนย้ายวัสดุก็ไม่คล่องตัว อีกทั้งอาจจะทำให้กำแพงสวยๆ ที่สร้างเสร็จแล้วของท่านชำรุดเสียหายได้
        - ห้ามสร้างกำแพงหรือรั้วสูงกว่าตัวบ้าน การที่บ้านของท่านจะมีสภาวะน่าสบาย มีความโล่งโปร่งสบายได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีลมพัดผ่านและถ่ายเทอากาศที่ดี การสร้างกำแพงหรือรั้วสูงๆนั้น จะเป็นการปิดกั้นทิศทางลมนั้นเสีย ทำให้อากาศในบ้านท่านอุดอู้ ไม่เกิดการถ่ายเทแต่อย่างใด
        - ห้ามสร้างศาลพระภูมิหันหน้าออกนอกบ้าน เรื่องของความเชื่อและเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การวางศาลพระภูมิในตำแหน่งที่เหมาะสมนั้น ทำให้มีความสะดวกต่อการสักการบูชาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความเจริญรุ่งเรืองได้
        - ห้ามสร้างบนหน้าผาสูงชัน แม้ว่าตามหน้าผาสูงๆจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามก็ตาม บ้านที่อยู่บนหน้าผาสูงชันนั้น ทำให้ผู้อาศัยเกิดความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย หากคำนึงถึงตั้งแต่ในช่วงการก่อสร้างแล้ว การขนย้ายวัสดุเพื่อมาก่อสร้างก็ทำได้ยาก
        - ห้ามสร้างซุ้มประตูใหญ่กว่าตัวบ้าน ซุ้มประตูที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะข่มให้บ้านของท่านหมดสง่าราศี เนื่องจากขนาดของบ้านที่เล็กกว่า อีกทั้งคนที่ผ่านซุ้มประตูมาก็เกิดความรู้สึกต่อซุ้มประตูบ้านขนาดใหญ่ที่ไม่สู้จะดีนัก
        - ห้ามสร้างบันไดหรือห้องน้ำห้องส้วมอยู่กลางบ้าน โดยหลักการพื้นฐานแล้วบันไดกับห้องน้ำห้องส้วมนั้นเป็นส่วนที่ต้องการแสงสว่าง บันไดนั้นจำเป็นต้องมีการให้แสงสว่างที่เพียงพอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการก้าวขึ้นลงบันได ยิ่งผู้สูงอายุหรือเด็กยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ในส่วนของห้องน้ำห้องส้วมนั้น เป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างและการระบายอากาศที่ดีเพราะเป็นเรื่องสุขอนามัย ดังนั้นหากบันไดและห้องน้ำห้องส้วมอยู่กลางบ้านเสียแล้วทั้งแสงสว่างและการระบายอากาศก็ย่อมจะทำได้ยาก

ภาพ:Bangkok22.jpg

        - ห้ามสร้างห้องน้ำห้องส้วมมากกว่าสมาชิกในบ้าน ไม่มีความจำเป็นอันใดที่ปริมาณห้องน้ำห้องส้วมจะมากกว่าสมาชิกในบ้าน เพราะโอกาสที่คนในบ้านจะใช้ห้องน้ำพร้อมกันนั้นมีน้อยมาก ห้องน้ำห้องส้วมเป็นห้องที่หมุนเวียนกันใช้ได้ ฉะนั้นการสร้างห้องน้ำห้องส้วมหลายห้องมากจนเกินไปจึงเป็นการเสียงบประมาณและจะเป็นการใช้พื้นที่ภายในบ้านที่มีอยู่อย่างจำกัดไปอย่างไม่คุ้มค่านัก
        - ห้ามสร้างห้องนอนไว้ใต้บันไดบ้าน ห้องนอนและบันไดบ้านนั้น ในแง่การใช้สอยก็เป็นสิ่งที่ขัดกันโดยธรรมชาติเนื่องจากว่าห้องนอนเป็นห้องที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัวเพื่อพักผ่อนนอนหลับ ขณะที่บันไดเป็นส่วนที่บุคคลภายในบ้านใช้เป็นทางสัญจรขึ้นลงตลอดเวลา จึงเกิดเสียงรบกวนหากทำห้องนอนไว้ที่ใต้บันได วิธีใช้ประโยชน์จากส่วนใต้บันไดนี้อาจใช้เป็นห้องเก็บของก็จะดูมีความเหมาะสมกว่า
        - ห้ามสร้างประตูหน้าต่างมากเกินไป การมีประตูหน้าต่างมากๆอาจทำให้บ้านโล่งโปร่งสบายก็จริง แต่ว่าหากมีมากจนเกินไป ก็อาจทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านทำได้ยาก ทำให้เปิดปิดลำบาก อีกทั้งเวลาเกิดฝนตกหรือลมพายุ การจะปิดประตูหน้าต่างจำนวนมากๆ เพื่อป้องกันกระแสลมแรงและน้ำฝนที่ซัดเข้าบ้าน ในเวลาอันรวดเร็วก็ดูเหมือนจะมีความยุ่งยากไม่น้อยทีเดียว
        - ไม่ควรดัดแปลงเอากำแพงเจาะเป็นช่องหน้าต่าง เนื่องจากกำแพงเป็นสิ่งห่อหุ้มอาณาเขตและปกป้องบ้านของท่าน และในการดัดแปลงนั้นเป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนและยากกว่าคิดวางแผนสร้างตั้งแต่ต้น ถ้าเป็นไปได้จึงไม่ควรจะดัดแปลงโดยไม่จำเป็น
        - ไม่ควรสร้างบ้านที่ใหญ่เกินไป แต่มีคนอยู่น้อย การสร้างบ้านควรพิจารณาถึงสมาชิกในบ้านด้วยเพราะหากบ้านมีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะทำให้การพบปะของสมาชิกในบ้านน้อยลงเนื่องจากขนาดที่ใหญ่ของบ้านนั้นเอง นอกจากนี้ยังดูแลรักษาให้ทั่วถึงได้ยาก
        ในพื้นที่ที่ต่างกันออกไปนั้น ข้อห้ามแต่ละข้อก็อาจส่งผลไม่เหมือนกันหรือไม่เท่ากัน การพิจารณาไตร่ตรองแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ โดยยึดเอาข้อห้ามเคหะศาสตร์เป็นเครื่องเตือนใจ ก็เป็นสิ่งที่แฟนๆคนรักบ้านทุกๆ ท่านควรพินิจอย่าง"มีเหตุมีผล"และประกอบด้วย"สติ"
        ข้อห้ามหลาย ๆ ข้อนั้นอาจเป็นเรื่องของนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่หากใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองดี ๆ แล้ว ก็เห็นเป็นจริงตามนั้น
        เคหะศาสตร์ที่เป็นข้อห้ามต่างๆที่ได้นำเสนอในทุกๆ ข้อนั้น ขอท่านพิจารณาไตร่ตรองและปรับใช้กับบ้านของท่านอย่างมีสติและรอบคอบนะ
        สำหรับหลักการทางเคหะศาสตร์ในการจัดวางห้องและส่วนต่างๆของบ้าน ก็พิจารณาจากหลักของความต้องการโดยธรรมชาติของห้องนั้นๆ เพื่อป้องกันเหตุและภัยอันมองไม่เห็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้

บ้านแปลกๆ2



__fwdDer.com__-162842705-106555.jpg


__fwdDer.com__-162842715-106556.jpg


__fwdDer.com__-162842718-106557.jpg


__fwdDer.com__-162842722-106558.jpg


__fwdDer.com__-162842726-106559.jpg


__fwdDer.com__-162842728-106560.jpg

บ้านแปลกๆ

บ้านแปลก ๆ

__fwdDer.com__-162842691-106550.jpg


__fwdDer.com__-162842693-106551.jpg


__fwdDer.com__-162842698-106552.jpg


__fwdDer.com__-162842700-106553.jpg


__fwdDer.com__-162842702-106554.jpg

ความเชื่อถือแต่โบราณและฤกษ์ยามในการปลูกบ้านทรงไทย

ความเชื่อถือแต่โบราณและฤกษ์ยามในการปลูกบ้านทรงไทย
ภาพ:Bangkok13.jpg

        การปลูกเรือไทย สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย เป็นประเพณีตามหมู่คนไทยแต่ก่อนมักนิยมให้ความสำคัญกับฤกษ์ยามและความเชื่อต่างๆ โดยซึ่งความเชื่อถือและฤกษ์ยามในการปลูกบ้านทรงไทยในสมัยโบราณ มีความเชื่อกันไปต่างๆ นานาซึ่งสืบทอดกันมา
        ปัจจุบันการปลูกบ้านหรือเรือนไทย ซึ่งมีการประยุกต์ให้เข้ากับกาลสมัยและช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากอาชีพการงานและเวลารัดตัว บางคนก็ยังยึดถือตามประเพณีเดิม บางคนก็มีการดัดแปลงไปบ้าง บางคนก็อาศัย ฤกษ์สะดวก ก็มี
        ส่วนความเชื่อถือแต่โบราณและฤกษ์ยามในการปลูกบ้านทรงไทยพอจะสรุปได้ดังนี้

ภาพ:Bangkok19.jpg

  • ความเชื่อถือแต่โบราณและฤกษ์ยามในการปลูกบ้านทรงไทย
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนอ้าย ย่อมจักได้เป็นเศรษฐีทรัพย์สินเพิ่มพูนมี เพราะเดือนนี้ อุดมผล
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนยี่ ทรัพย์สิงคลีมามากผล เมื่อดิถีดูชอบกล ข้าศึกและแสนกล มามากล้นพ้นศัตรู
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสาม ภัยติดตามงามน่าดู คนใจร้ายมันสู้ เมื่อถึงฤดูจักเกิดอันตราย
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสี่ ลาภมากมีสุขสบาย ทุกข์โศกบรรเทาหาย ความสบายเพิ่มพูนมา
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนห้า ทุกข์เท่าฟ้ามาถึงตน ปลูกเดือนนี้ไม่มีผล ทุกข์ล้นพ้นภัยมีมา
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนหก ทาหยิบยกไว้เหลือหลายทรัพย์ศฤงคารบันดาลมามากมาย อยู่สุขสบายทรัพย์เนืองนอง
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนเจ็ด ทรัพย์ระเห็จสิ้นทั้งผองทรัพย์สินที่ตนครอง อัคคีภัยผยองมาเผาผลาญ
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนแปด จะร้อนแผดระทมหาญทรัพย์สินและบริวาร จะทรยศหมดไป
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนเก้า ใจไม่เศร้าเกิดบรรเลง ยศศักดิ์เกิดขึ้นเอง ทั้งทรัพย์สินเพิ่มพูนมา
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสิบ จักฉิบหายต้องขื่อคา โรคภัยร้ายก้าวหน้า อันตรายจะมาปะปน
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสิบเอ็ด อันความเท็จจักมาสู่ตน ปลูกเดือนนี้ไม่มีผล ต้องผจญกับทุกข์ภัย
  • ผู้ใดปลูกเรือนในเดือนสิบสอง เงินแลทองจักเหลือหลาย สรรพสัตว์แลวัวควาย บริวารมากมายไหลเทมา

ข้อห้ามเฉพาะสำหรับการสร้างบ้านทรงไทย

ข้อห้ามเฉพาะสำหรับการสร้างบ้านทรงไทย
ภาพ:Bangkok12.jpg

        ข้อห้ามเฉพาะสำหรับการสร้างบ้านทรงไทยตามลัทธิไสยศาสตร์ ประเพณี และความเชื่ออันมีอิทธิพลต่อขวัญของบุคคล ซึ่งความเชื่อลัทธิดังกล่าว บางอย่างมีเหตุผลสมควร บางอย่างหาสาเหตุยังไม่พบ หรือไม่มีเหตุผลอธิบาย
        ปัจจุบันข้อห้ามหรือความเชื่อบางอย่าง มีเหตุผลอธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์ และบางอย่างก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ ทำให้บางคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อห้ามเหล่านี้ อย่างไรก็ก็ยังคนมีผู้ให้ความสำคัญกับข้อห้ามเหล่านี้อยู่เช่นกัน
        ข้อห้ามเฉพาะสำหรับการสร้างบ้านทรงไทย พอจะรวบรวมเป็นข้อห้ามเฉพาะการสร้างบ้านได้ดังนี้
  • บันไดห้ามใช้จำนวนขั้นคู่ (ต้องเป็นขั้นคี่นับเฉพาะขั้น ไม่นับพื้นหรือชานพัก)
  • บันไดไม่ลงไปทางทิศตะวันตก
  • ไม่หันหัวนอนไปทางทิศตะวันตก
  • ไม่ทำน้ำพุน้ำตกไหลเข้าตัวเรือน (ตึก)
  • ไม่ปลูกต้นหางนกยูง ต้นลั่นทม ต้นโศก ตรุษจีนฯ
  • ไม่ทำทางเข้าลอดใต้ห้องน้ำส้วม

ภาพ:Bangkok20.jpg

  • ไม่ทำอาคารรูปตัว "ที" มีปีกเท่ากันสองข้างเรียก "แร้งกระพือปีก" ถือเป็นอัปมงคล
  • ไม่ทำเรือนทะลุหน้าตลอดหลังถือว่าเป็น "เรือนอกแตก" เป็นอัปมงคล
  • ไม่ทำภูเขาจำลองไว้ในบ้าน
  • ห้ามใช้ไม้ตะเคียน ไม้มะค่าในการปลูกเรือน
  • ห้ามใช้เสาตกน้ำมัน
  • ห้ามทำทางเข้าออกคู่ไว้ตอนมุมของพื้นดินที่ทางสามแพร่งหรือสี่แยก
  • ห้ามทำภาพยักษ์ไว้ในบ้าน
  • ห้ามทำหนังใหญ่หรือหนังตะลุงไว้ในบ้าน
  • ห้ามใช้ช่อฟ้า ใบระกา - เครื่องวัด - เครื่องหลวง หรือมีเครื่องประดับชั้นสูงในบ้าน
  • ห้ามปลูกเรือนคร่อมตอ
  • ห้ามตั้งศาลพระภูมิใต้เงาเรือน
  • ไม่ปลูกต้นมะละกอใกล้ตัวเรือน
  • ห้ามทำบันไดเวียนซ้ายขาขึ้น
  • ไม่ปลูกบ้านใต้ต้นไม้ใหญ่
  • ห้ามมิให้มีสัตว์ตกตายในหลุมตอม่อ
  • ห้ามใช้เสาไม้มีตาในระยะ "เป็ดไซ้ ไก่ตอด สลัก รอด หมู่สี"
  • ห้ามวางรูปพื้นเรือนในอัตราส่วนที่ใกล้เคียงรูโลงศพ
  • ห้ามทำเตียงนอนขาสิงห์ เครื่องใช้ขาสิงห์ (ซึ่งเทียมเจ้านาย)
  • ห้ามนำศพออกประตูเรือน หรือลงบันไดบ้าน (ให้ออกทางด้านฝาหุ้มกลอง เพราะสะดวกในการเคลื่อนศพฝาหุ้มกลองถอดออกและประกอบใหม่ได้)
  • ห้ามนำของวัดเข้าบ้านหรือมาประกอบเป็นส่วนของบ้าน
  • ห้ามทำทางเข้าเวียนซ้ายของอาคาร ฯลฯ

ข้อห้ามเคหะศาสตร์

 ข้อห้ามเคหะศาสตร์

        ข้อห้ามของเคหะศาสตร์ที่ช่วยทำให้บ้านของท่านเป็นบ้านที่อยู่ร่มเย็นเป็นสุขนั้น มีมากมายหลายข้อ ข้อห้ามทางเคหะศาสตร์มากมายหลายข้อที่ยกขึ้นมานั้นล้วนประกอบไปด้วยเหตุผลในอันที่จะทำให้ คนรักบ้านทุกๆท่านอยู่เย็นเป็นสุข แต่ข้อห้ามต่างๆ ก็มิใช่กฏเกณฑ์ตายตัวที่ต้องปฏิบัติ หากมีความจำเป็นจริงๆ ข้อห้ามต่างๆ ก็สามารถดัดแปลงประยุกต์แก้ไขได้ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม ขอยกตัวอย่างข้อห้ามที่เป็นข้อห้ามเกี่ยวกับการเลือกทำเลที่ตั้งกับพื้นที่ในตัวบ้านกัน
        - ห้ามสร้างบ้านที่มีถนนรอบล้อมทั้งสี่ด้าน เนื่องด้วยบ้านที่มีถนนรอบล้อมนั้น ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านจะหาความสงบได้ยาก เนื่องจากเสียง, ฝุ่น, ควันจากการจราจรจะเข้ามารบกวนผู้อยู่อาศัยตลอดเวลา เกิดผลเสียต่อสุขภาพจิต สุขภาพกายทำให้พลังชีวิตของท่านลดลงได้
        - ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่กลางลานบ้าน หรือปลูกบ้านล้อมต้นไม้ใหญ่ เนื่องจากต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และสูง มีโอกาสที่กิ่งไม้แห้งจะหล่นลงมาสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่านได้ นึกถึงเวลามีพายุฝน หรือลมกรรโชกแรง จะทำให้ต้นไม้ที่เอนตามกระแสลมสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่าน และอาจหักโค่นลงมาทับสร้างความเสียหายให้กับบ้านท่านได้
        - ห้ามปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ในแนวเดียวกับประตูบ้าน เป็นข้อห้ามอีกข้อเกี่ยวกับต้นไม้ เนื่องด้วยการปลูกต้นไม้บดบังทางเข้าบ้าน นั้นสร้างความสับสนให้กับกัลยาณมิตรที่มาเยี่ยมเยือนท่าน ตลอดจนต้นไม้หน้าบ้านนั้นทำให้การปรับใช้พื้นที่หน้าบ้านของท่านทำได้ยากขึ้นด้วย
        - ห้ามปลูกบ้านตั้งอยู่บนทำเลที่สร้างความรำคาญใจ ท้อแท้และหดหู่ บันทอนพลังชีวิตของท่าน เช่น ป่าช้า สถานีตำรวจ โรงพยาบาล เรือนจำ หรือศาล เป็นต้น

ภาพ:Bangkok21.jpg

        - ห้ามมีร่องน้ำไหลผ่านกลางที่ดินหรือบ้าน เนื่องมาจากว่าร่องน้ำที่อยู่กลางบ้านนั้น อาจก่อให้เกิดสภาวะแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนั้นยังมีการดูแลรักษาที่ยากจนอาจจะเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค อันเป็นอันตรายต่อท่านได้ การมีร่องน้ำอยู่กลางบ้านของท่านนั้น ก็มีลักษณะเหมือนบ้านของท่านแยกออกจากกันเหมือนเมืองอกแตก อันเป็นลักษณะที่ไม่ดี
        - ห้ามปลูกบ้านคร่อมบ่อน้ำหรือตอไม้ บริเวณที่มีตอไม้นั้นการขุดหลุมหรือปรับพื้นที่ทำได้ยาก เนื่องจากมีรากไม้ที่แม้จะตายแล้วแต่ก็มีความแข็งแรงยากแก่การรื้อถอนแต่พอตอไม้เริ่มผุพังก็อาจเป็นที่อยู่ของปลวก, มด เป็นต้น อาจเป็นอันตรายต่อบ้านท่านได้ ส่วนบ่อน้ำเก่านั้นเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของดินน้อยกว่าส่วนอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะมีการถมอย่างดีแล้วก็ตาม นอกจากนี้บ่อน้ำเก่าบางแห่งยังเป็นตาน้ำที่มีน้ำซึมตลอดเวลาอีกด้วย จะเห็นว่าทั้งสองส่วนนี้จะมีผลต่อการวางโครงสร้างบ้านของท่าน ขอให้คนรักบ้านพิจารณาข้อนี้กันให้ดี
        - ห้ามสร้างบ้านอยู่ในน้ำ โดยปกติในอากาศจะมีความชื้นอยู่ในระดับที่พอเหมาะ (เรียกว่าภาวะน่าสบาย ประกอบไปด้วยอุณภูมิ ความชื้น การถ่ายเทอากาศ) หากบ้านท่านอยู่บนน้ำแล้วความชื้นในอากาศก็จะมีมากขึ้นส่งผลให้ท่านรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว มีโอกาศเป็นโรคทางเดินหายใจได้ นอกจากนั้น โครงสร้างของบ้านที่อยู่ระหว่างน้ำและอากาศ ก็มีโอกาสจะสึกกร่อนได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย
        - ห้ามสร้างสระน้ำใหญ่ติดกับตัวบ้าน เช่นเดียวกับข้อที่แล้ว การที่บ้านท่านจะมีสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ติดกับตัวบ้านนั้น นอกจากสระน้ำที่มีขนาดใหญ่นั้นจะข่มบดบังรัศมีของบ้านท่านแล้วนั้น ก็ยังมีเรื่องความชื้นที่สระน้ำขนาดใหญ่ถ่ายเทให้กับอากาศในปริมาณที่มากจนเกินไปได้ และยังต้องระวังการทรุดตัวของโครงสร้างบ้าน แต่หากเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ทะเลสาบ, แม่น้ำ ไม่เป็นไร
        - ห้ามขุดบ่อน้ำไว้หลังบ้าน เพราะหลังบ้านเป็นบริเวณที่ไม่ค่อยมีกิจกรรมสักเท่าไร อีกทั้งยังมืดและอาจจะรก ร้าง การมีบ่อน้ำอยู่หลังบ้านจึงเป็นอันตราย อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนการดูแลรักษาทำได้ยาก การใช้ประโยชน์จากบ่อน้ำก็ดูไม่คุ้มค่าสักเท่าไร
        - ห้ามก่อสร้างกำแพงก่อนการสร้างบ้าน ในการสร้างบ้านนั้นท่านจำเป็นต้องขนย้ายวัสดุต่างๆ เข้าออกอยู่ตลอดเวลา หากท่านสร้างกำแพงบ้านก่อนแล้วนั้น การขนย้ายวัสดุก็ไม่คล่องตัว อีกทั้งอาจจะทำให้กำแพงสวยๆ ที่สร้างเสร็จแล้วของท่านชำรุดเสียหายได้
        - ห้ามสร้างกำแพงหรือรั้วสูงกว่าตัวบ้าน การที่บ้านของท่านจะมีสภาวะน่าสบาย มีความโล่งโปร่งสบายได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีลมพัดผ่านและถ่ายเทอากาศที่ดี การสร้างกำแพงหรือรั้วสูงๆนั้น จะเป็นการปิดกั้นทิศทางลมนั้นเสีย ทำให้อากาศในบ้านท่านอุดอู้ ไม่เกิดการถ่ายเทแต่อย่างใด
        - ห้ามสร้างศาลพระภูมิหันหน้าออกนอกบ้าน เรื่องของความเชื่อและเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การวางศาลพระภูมิในตำแหน่งที่เหมาะสมนั้น ทำให้มีความสะดวกต่อการสักการบูชาเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความเจริญรุ่งเรืองได้
        - ห้ามสร้างบนหน้าผาสูงชัน แม้ว่าตามหน้าผาสูงๆจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามก็ตาม บ้านที่อยู่บนหน้าผาสูงชันนั้น ทำให้ผู้อาศัยเกิดความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย หากคำนึงถึงตั้งแต่ในช่วงการก่อสร้างแล้ว การขนย้ายวัสดุเพื่อมาก่อสร้างก็ทำได้ยาก
        - ห้ามสร้างซุ้มประตูใหญ่กว่าตัวบ้าน ซุ้มประตูที่มีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะข่มให้บ้านของท่านหมดสง่าราศี เนื่องจากขนาดของบ้านที่เล็กกว่า อีกทั้งคนที่ผ่านซุ้มประตูมาก็เกิดความรู้สึกต่อซุ้มประตูบ้านขนาดใหญ่ที่ไม่สู้จะดีนัก
        - ห้ามสร้างบันไดหรือห้องน้ำห้องส้วมอยู่กลางบ้าน โดยหลักการพื้นฐานแล้วบันไดกับห้องน้ำห้องส้วมนั้นเป็นส่วนที่ต้องการแสงสว่าง บันไดนั้นจำเป็นต้องมีการให้แสงสว่างที่เพียงพอเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากการก้าวขึ้นลงบันได ยิ่งผู้สูงอายุหรือเด็กยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ในส่วนของห้องน้ำห้องส้วมนั้น เป็นห้องที่ต้องการแสงสว่างและการระบายอากาศที่ดีเพราะเป็นเรื่องสุขอนามัย ดังนั้นหากบันไดและห้องน้ำห้องส้วมอยู่กลางบ้านเสียแล้วทั้งแสงสว่างและการระบายอากาศก็ย่อมจะทำได้ยาก

ภาพ:Bangkok22.jpg

        - ห้ามสร้างห้องน้ำห้องส้วมมากกว่าสมาชิกในบ้าน ไม่มีความจำเป็นอันใดที่ปริมาณห้องน้ำห้องส้วมจะมากกว่าสมาชิกในบ้าน เพราะโอกาสที่คนในบ้านจะใช้ห้องน้ำพร้อมกันนั้นมีน้อยมาก ห้องน้ำห้องส้วมเป็นห้องที่หมุนเวียนกันใช้ได้ ฉะนั้นการสร้างห้องน้ำห้องส้วมหลายห้องมากจนเกินไปจึงเป็นการเสียงบประมาณและจะเป็นการใช้พื้นที่ภายในบ้านที่มีอยู่อย่างจำกัดไปอย่างไม่คุ้มค่านัก
        - ห้ามสร้างห้องนอนไว้ใต้บันไดบ้าน ห้องนอนและบันไดบ้านนั้น ในแง่การใช้สอยก็เป็นสิ่งที่ขัดกันโดยธรรมชาติเนื่องจากว่าห้องนอนเป็นห้องที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัวเพื่อพักผ่อนนอนหลับ ขณะที่บันไดเป็นส่วนที่บุคคลภายในบ้านใช้เป็นทางสัญจรขึ้นลงตลอดเวลา จึงเกิดเสียงรบกวนหากทำห้องนอนไว้ที่ใต้บันได วิธีใช้ประโยชน์จากส่วนใต้บันไดนี้อาจใช้เป็นห้องเก็บของก็จะดูมีความเหมาะสมกว่า
        - ห้ามสร้างประตูหน้าต่างมากเกินไป การมีประตูหน้าต่างมากๆอาจทำให้บ้านโล่งโปร่งสบายก็จริง แต่ว่าหากมีมากจนเกินไป ก็อาจทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านทำได้ยาก ทำให้เปิดปิดลำบาก อีกทั้งเวลาเกิดฝนตกหรือลมพายุ การจะปิดประตูหน้าต่างจำนวนมากๆ เพื่อป้องกันกระแสลมแรงและน้ำฝนที่ซัดเข้าบ้าน ในเวลาอันรวดเร็วก็ดูเหมือนจะมีความยุ่งยากไม่น้อยทีเดียว
        - ไม่ควรดัดแปลงเอากำแพงเจาะเป็นช่องหน้าต่าง เนื่องจากกำแพงเป็นสิ่งห่อหุ้มอาณาเขตและปกป้องบ้านของท่าน และในการดัดแปลงนั้นเป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนและยากกว่าคิดวางแผนสร้างตั้งแต่ต้น ถ้าเป็นไปได้จึงไม่ควรจะดัดแปลงโดยไม่จำเป็น
        - ไม่ควรสร้างบ้านที่ใหญ่เกินไป แต่มีคนอยู่น้อย การสร้างบ้านควรพิจารณาถึงสมาชิกในบ้านด้วยเพราะหากบ้านมีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะทำให้การพบปะของสมาชิกในบ้านน้อยลงเนื่องจากขนาดที่ใหญ่ของบ้านนั้นเอง นอกจากนี้ยังดูแลรักษาให้ทั่วถึงได้ยาก
        ในพื้นที่ที่ต่างกันออกไปนั้น ข้อห้ามแต่ละข้อก็อาจส่งผลไม่เหมือนกันหรือไม่เท่ากัน การพิจารณาไตร่ตรองแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ โดยยึดเอาข้อห้ามเคหะศาสตร์เป็นเครื่องเตือนใจ ก็เป็นสิ่งที่แฟนๆคนรักบ้านทุกๆ ท่านควรพินิจอย่าง"มีเหตุมีผล"และประกอบด้วย"สติ"
        ข้อห้ามหลาย ๆ ข้อนั้นอาจเป็นเรื่องของนามธรรมที่จับต้องไม่ได้ แต่หากใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองดี ๆ แล้ว ก็เห็นเป็นจริงตามนั้น
        เคหะศาสตร์ที่เป็นข้อห้ามต่างๆที่ได้นำเสนอในทุกๆ ข้อนั้น ขอท่านพิจารณาไตร่ตรองและปรับใช้กับบ้านของท่านอย่างมีสติและรอบคอบนะ
        สำหรับหลักการทางเคหะศาสตร์ในการจัดวางห้องและส่วนต่างๆของบ้าน ก็พิจารณาจากหลักของความต้องการโดยธรรมชาติของห้องนั้นๆ เพื่อป้องกันเหตุและภัยอันมองไม่เห็นที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ดอกไม้มงคลที่ควรปลูกในบ้าน

กุหลาบ
มงคล
    
กุหลาบเป็นต้นไม้ที่ผู้คนทั่วไปต่างรู้จักดี เพราะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากความงดงามของดอกกุหลาบนั้น ดึงดูดใจและยังมีกลิ่นหอมจับใจอีกด้วย
    
กุหลาบเป็นต้นไม้ที่มีดอกหลายสีทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง สีชมพู สีแสด และสีม่วง
    
ดอกกุหลาบได้รับการขนานนามให้เป็นราชินีแห่งดอกไม้เพราะมีรูปลักษณ์ และสีสันที่สวยงามจับตาของผู้พบเห็น
    
คนโบราณเชื่อว่าหากครอบครัวใดปลูกกุหลาบเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะช่วยเพิ่มความสง่างาม และโรแมนติกให้แก่บรรยากาศบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะดอกกุหลาบที่ชูช่อบานนั้น จะสวยงามโดดเด่นจนใครๆ ต่างก็ชื่นชม
    
ยังเชื่อกันอีกว่าหากปลูกต้นกุหลาบ สมาชิกทุกคนภายในบ้านก็จะมีโชคลาภ มีชีวิตที่ดี มีความฉลาดปราดเปรื่อง มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
เคล็ดปฏิบัติ
    
กุหลาบเป็นราชินีแห่งอุทยาน ดังนั้น ผู้ที่เหมาะจะลงมือปลูกกุหลาบ ก็ควรจะเป็นสุภาพสตรี เพราะมีความอ่อนโยน และงดงามเหมือนดอกกุหลาบ
    
ควรปลูกกุหลาบไว้ทางทิศตะวันออก เพราะต้นกุหลาบจะเจริญงอกงามให้ดอกที่มีสีสันสดสวย เมื่อได้รับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า
    
วันพุธ เป็นวันที่เหมาะจะลงมือปลูกกุหลาบที่สุด เพราะคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่ให้ดอกสวยงามเพิ่มเสน่ห์แก่บ้านเรือนนั้น ควรปลูกในวันพุธ ต้นไม้จึงจะมีพลังในการเพิ่มสิริมงคลให้แก่ครอบครัว

แก้ว

มงคล
    
ต้นแก้วนั้นก็เป็นไม้มงคลอีกชนิดหนึ่ง ที่นิยมปลูกกันมาก เพราะดอกแก้วนั้นมักจะส่งกลิ่นหอมเย็น อย่างน่าชื่นใจอันเป็นเสน่ห์ของต้นไม้ชนิดนี้
    
แก้ว หมายถึง สิ่งที่ดีมีค่าสูงเป็นที่ยกย่องยอมรับของคนทั่วไป ดังที่เรามักจะได้ยินคนโบราณเปรียบ ของที่มีคุณค่าสูงว่าเป็นดั่งดวงแก้ว
    
แก้ว อาจจะหมายความถึง ความใสสะอาดและความสดใส ดังนั้น คนโบราณจึงเชื่อกันว่า ครอบครัวที่ปลูกต้นแก้วไว้ภายในบริเวณบ้าน สมาชิกทุกคนก็จะมีจิตใจบริสุทธิ์สะอาด เบิกบานแจ่มใสราวกับความใสของแก้วเลยทีเดียว
    
และยังเชื่ออีกว่า การปลูกต้นแก้วนั้น จะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้กับบ้าน เพราะคนในบ้าน ก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีงาม ประพฤติดีและได้รับการยกย่องจากคนทั่วไป
    
เรายังมักจะนำดอกแก้ว ซึ่งมีกลิ่นหอมเย็นนั้นไปบูชาพระ และนำไปประกอบพิธีทางศาสนา จึงถือว่าเป็นดอกไม้ที่บริสุทธิ์ เหมาะสำหรับนำไปบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มความงดงามของจิตใจได้อีกด้วย

เคล็ดปฏิบัติ
    
ควรลงมือปลูกต้นแก้วในวันพุธ เพราะคนโบราณเชื่อว่าการปลูกต้นไม้ที่ให้ดอก สวยงาม และนำมาใช้ประโยชน์ได้นั้น ควรจะปลูกในวันพุธ ต้นไม้นั้นจึงจะเปี่ยมไปด้วยคุณค่า และความเป็นมงคล
    
ต้นแก้วจะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่บ้าน และผู้อยู่อาศัย หากปลูกเอาไว้ทางทิศตะวันออก เพราะจะยิ่งทำให้ต้นไม้ชนิดนี้งอกงามได้ดี


กวนอิมเงิน-กวนอิมทอง
มงคล
    
กวนอิมเงินและกวนอิมทอง เป็นไม้ยืนต้นที่มีชื่อใกล้เคียงกับเทพเจ้าที่ชาวจีน และชาวไทยให้ความเคารพบูชา กันแพร่หลายทั่วไป
    
เชื่อกันว่าต้นกวนอิมเงิน กวนอิมทองนั้น เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เพราะคนโบราณมักจะใช้ต้นไม้ทั้งสองชนิดนี้ มาประกอบในพิธีบูชาเทพเจ้า หรือนำมาประกอบพิธีมงคลทางศาสนาอยู่เสมอ
    
คนโบราณกล่าวว่า ครอบครัวใดที่ปลูกต้นกวนอิมเงิน กวนอิมทองเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะช่วยดลบันดาลให้ครอบครัวนั้น มีโชคลาภเพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทอง มีฐานะร่ำรวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม หากทำมาค้าขายก็จะได้กำไรมั่งคั่งแน่นอน
    
ต้นกวนอิมเงิน กวนอิมทองนั้นถือว่าเป็นต้นไม้ที่ช่วยเรียกทรัพย์สินเงินทองเข้ามาภายในบ้าน ดังนั้น ผู้ปลูกและสมาชิกในครอบครัว จึงมีทรัพย์สมบัติใช้จ่ายกันอย่างไม่ขาดมือเลยทีเดียว
เคล็ดปฏิบัติ
    
ต้นไม้ทั้งสองชนิดนี้ เหมาะที่จะนำมาปลูกทางทิศตะวันออกของตัวบ้าน เพราะต้นไม้จะมีพลังในการเรียกความร่ำรวย เมื่อได้รับแสงแดดยามเช้าอย่างเต็มที่
    
ควรลงมือปลูกในวันอังคาร เพราะคนโบราณเชื่อกันว่า ต้นไม้ที่มีใบดกงามสีสันสะดุดตานั้น ควรจะปลูกในวันอังคาร จึงจะได้ต้นไม้ที่มีลักษณะดี และช่วยเสริมสิริมงคลให้กับผู้เป็นเจ้าของ รวมทั้งครอบครัวได้เป็นอย่างดี
พิกุลทอง
มงคล
    
คงเคยได้ยินประโยคที่ว่า พูดน้อย เพราะกลัวว่า ดอกพิกุลทองจะร่วงซึ่งเป็นคำเปรียบเปรยถึง คนที่พูดน้อยจนน่าใจหาย
    
ความจริงแล้ว ต้นพิกุลทอง เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ที่มีความแข็งแรงทนทาน และมีอายุยืนยาวชนิดหนึ่ง เลยทีเดียว
    
คนไทยเราเชื่อกันว่า ต้นพิกุลทองนั้น เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สิงสถิตย์ของเทพเจ้า ดังนั้น หากนำเนื้อไม้ มาทำเป็นข้าวของต่างๆ ก็จะช่วยเพิ่มความขลัง และเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์ให้พ้นภัยอันตรายต่างๆ ไม่สามารถจะเข้ามาทำร้ายได้
    
คนโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นพิกุลทองเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะทำให้คนในบ้านมีอายุยืน มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีความทรหดอดทน เหมือนกับความแข็งแกร่งของต้นพิกุลทอง
เคล็ดปฏิบัติ
    
ผู้ที่เหมาะจะลงมือปลูกต้นพิกุลทอง คือ สุภาพสตรี เพราะชื่อของต้นไม้นั้น อ่อนหวาน งดงาม เหมาะจะให้ผู้หญิง เป็นฝ่ายปลูก มากกว่าผู้ชาย
    
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เหมาะที่จะทำการปลูกต้นพิกุลทอง เพราะจะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่บ้านเรือน และสมาชิกทุกคนภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
    
ควรลงมือปลูกต้นไม้ชนิดนี้ในวันเสาร์ เพราะคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่ปลูกเพื่อเพิ่มมงคลให้แก่บ้านนั้น ควรจะปลูกในวันเสาร์ ต้นไม้นั้น จึงจะมีพลังเต็มเปี่ยม

ไม้มงคลที่ควรปลูกในบ้าน

สักทอง
มงคล
    
ขณะนี้ต้นสักทองกำลังเป็นที่นิยมมาก เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยทีเดียว ที่หันมาปลูกสร้างบ้านเรือนด้วยไม้สักทอง เพราะนอกจากจะแข็งแรงทนทานแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับบ้าน และผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
    
สักทองนั้น เป็นต้นไม้ที่ชื่อมีความหมายดีมาก เพราะสักหรือสักกะนั้น หมายถึงพระอินทร์ ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่สุดในสรวงสวรรค์
    
นอกจากนั้นคำว่า สักยังพ้องเสียงกับ ศักดิ์ซึ่งหมายถึงยศถาบรรดาศักดิ์ เกียรติศักดิ์ หรือศักดิ์ศรี ซึ่งต่างก็เป็นความหมายในแง่ดีด้วยกันทั้งนั้น
    
คนโบราณเชื่อกันว่า หากครอบครัวใดปลูกต้นสักทองเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะช่วยเพิ่มความมีสง่าราศี ส่งผลให้ได้เลื่อนตำแหน่ง เป็นที่เคารพยกย่องจากบุคคลทั่วไป และยังเพิ่มบุญบารมีให้กับสมาชิกทุกคนภายในบ้านอีกด้วย




 
เคล็ดปฏิบัติ
    
ทิศเหนือ เป็นทิศที่เหมาะที่สุดในการปลูกต้นสักทอง และควรจะลงมือปลูกในวันเสาร์ เพราะาคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่จะช่วยเสริม ความเป็นสิริมงคลให้กับบ้าน ควรจะปลูกในวันเสาร์ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก
    
มอบหน้าที่ปลูกต้นสักทองให้ ผู้ที่อาวุโสที่สุดในบ้าน หากบ้านมีเพียงหนุ่มสาว ก็ควรเชิญผู้ใหญ่หรือญาติสนิท ที่เราเคารพนับถือ หรือผู้ที่ทำแต่ความดี จนได้รับการสรรเสริญยกย่อง มาเป็นผู้ลงมือปลูก ก็จะช่วยเพิ่มมงคลให้กับต้นไม้ได้เป็นอย่างดี

ไผ่

มงคล
    
จะสังเกตได้ว่า มีบ้านเรือนจำนวนไม่น้อยเลย ที่นิยมปลูกต้นไม้ไผ่เอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ไผ่เหลืองทอง ไผ่สีสุก ไผ่เตี้ย หรือไผ่น้ำเต้า
    
การที่คนไทยนิยมปลูกต้นไผ่นั้น มีความเชื่อมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วว่า หากปลูกต้นไผ่เอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะช่วยให้ สมาชิกทุกคนภายในบ้านนั้น เป็นคนที่ไม่คดโกง หรือเอารัดเอาเปรียบใคร ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร ก็จะตั้งใจทำ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม
    
ซึ่งความเชื่อเหล่านั้น ก็มีพื้นฐานมาจากลักษณะของต้นไผ่นั่นเอง ต้นไผ่นั้นจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แตกกิ่งก้านสาขาที่เหยียดตรง และเรียบเนียน ส่วนด้านในของปล้องไผ่แต่ละปล้อง ก็จะมีแต่เนื้อไม้สีขาวบริสุทธิ์
    
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนโบราณเชื่อว่าไผ่สีสุกนั้น จะช่วยส่งผลให้สมาชิกทุกคนในบ้านนั้น ประสพแต่ความสำเร็จ ร่ำรวยเงินทอง มีความสุขกันถ้วนหน้า เพราะชื่อของไผ่ชนิดนี้ คล้องจองกับคำว่า มั่งมีศรีสุขจึงช่วยให้เกิดความสุขความเจริญ แก่ผู้ปลูกกันทั่วทุกคน
    
ชาวจีนก็เชื่อกันว่า ไผ่จะเสริมมงคลให้คนในบ้าน เป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจจริง มีปัญญาเลิศมีเหตุผล ชื่อตรง เอื้ออารี และกตัญญูรู้คุณ


เคล็ดปฏิบัติ
    
ต้นไผ่นั้น เหมาะจะนำไปปลูกไว้บริเวณริมรั้วของบ้าน เพราะธรรมชาติของต้นไผ่นั้น จะแตกหน่อเจริญงอกงามอย่างรวดเร็ว จึงเหมะจะปลูกแถบบริเวณที่โล่งกว้างของบ้าน
    
การปลูก ก็ควรจะปลูกต้นไผ่ไว้ทางทิศตะวันออกของบ้าน เพื่อให้ต้นไผ่ได้รับแสงแดดยามเช้าอย่างเต็มที่ และควรจะลงมือปลูกในวันเสาร์ เพราะคนโบราณเชื่อว่า การปลูกต้นไม้ที่ให้ประโยชน์ได้หลาย ๆ ทาง ก็ควรจะปลูกในวันเสาร์ จึงจะงอกงามดี และเสริมมงคลดียิ่ง
    
ผู้ที่เหมาะจะลงมือปลูกต้นไผ่มากที่สุด คือ ผู้ที่เกิดในปีมะแม ซึ่งถ้าเป็นสมาชิกภายในบ้านก็จะเป็นการดี เพราะต้นไผ่นั้น เป็นต้นไม้ประจำปีมะแม ดังนั้น ความเป็นมงคลของต้นไผ่ก็จะเพิ่มมากขึ้น
    
ถ้าไม่มีผู้ที่เกิดปีมะแม ก็ให้หัวหน้าครบครัวเป็นผู้ปลูกก็ถือว่าเป็นมงคลเช่นกัน

ขนุน
มงคล
    
ขนุนเป็นไม้ไทยเก่าแก่ ที่คนไทยเรานิยมปลูกกันมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว คนไทยเกือบทุกเรือนชาน ทุกบ้านช่อง จะมีต้นขนุนอย่างน้อย 1-2 ต้น ปลูกไว้ริมรั้ว ขนุนมีหลายพันธ์ เช่น จำปาดะ และขนุนหนังเป็นต้น
    
คนโบราณเชื่อว่า ขนุนเป็นไม้มงคลนาม คือให้ความเป็นสิริมงคลตามชื่อ จะส่งผลให้ผู้ปลูกมีบุญหนุนนำ ชีวิตจึงมีแต่ความสุขความรุ่งโรจน์

    
เชื่อกันว่าขนุนจะช่วยให้มีคนคอยช่วยเหลือเกื้อหนุน จะทำการสิ่งใด ก็มีคนสนับสนุนผลักดัน ให้ก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ
    
หากจะทำมาค้าขาย ก็จะร่ำรวยเพราะมีคนมาอุดหนุนจุนเจือไม่ขาด ไม่ว่าจะทำกิจใด ชีวิตก็จะรุ่งเรืองมีเงินมีทองหนุนเนื่องตลอดไป
เคล็ดปฏิบัติ
    
การปลูกขนุนในบริเวณให้ได้ความเป็นสิริมงคลนั้น ควรให้ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ลงมือปลูก วันที่เป็นมงคลคือวันจันทร์และวันพฤหัสบดี
    
ควรอย่างยิ่งที่จะปลูกขนุนไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของบ้าน


ข่อย
มงคล
    
ข่อยมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สนนาย เป็นไม้ยืนต้นที่ชาวไทยรู้จักกันดี เพราะข่อยนั้น ถือได้ว่า เป็นแปรงสีฟันในยุคแรกๆ ของประเทศไทยเลยทีเดียว
    
คนโบราณเชื่อกันว่าหากบ้านใด ที่ปลูกต้นข่อยเอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ก็จะมีความมั่นคงปลอดภัย และแคล้วคลาดจากอันตรายที่เกิดจากผู้ไม่หวังดี หรือศัตรูที่อาจทำอันตรายแก่สมาชิกภายในบ้าน และผู้คนในบ้านก็จะมีความแข็งแกร่ง อดทนได้ดีเยี่ยมอีกด้วย
    
ซึ่งความเชื่อนี้ก็เกิดขึ้นเพราะต้นข่อยนั้น เป็นต้นไม้ที่แข็งแรงทนทาน มีอายุยืนหลายชั่วอายุคน และใบของมันยังนำมาโบกพัด เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้พ้นไปจากบ้านได้เช่นกัน

เคล็ดปฏิบัติ
    
ลงมือปลูกต้นข่อยในวันเสาร์ เพราะคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่ให้ความเป็นสิริมงคลนั้น ควรจะปลูกใน วันเสาร์ ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลของต้นไม้ได้เป็นอย่างดี
    
ผู้ลงมือปลูกต้นข่อยนั้น ควรจะเป็นคุณผู้ชาย เพื่อช่วยเสริมพลังความแข็งแรงคงทน ซึ่งคล้ายกับหนุ่ม ในวัยฉกรรจ์นั่นเอง
    
มองหาที่ว่างทางทิศตะวันออกของบ้าน ที่มีเนื้อที่พอเหมาะ และลงมือปลูกต้นข่อยได้ เพราะข่อยนั้น เหมาะจะปลูกทางทิศตะวันออกเป็นที่สุด

ประดู่
มงคล
    
ต้นประดู่นั้น ให้คุณประโยชน์ได้มากมายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นดอกที่สวยสดงดงาม หรือเนื้อไม้ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ ได้อย่างมากมายมหาศาล
    
หากคุณเคยสังเกต ก็คงจะเคยได้ยินมาบ้างว่า ต้นประดู่นั้น ได้ถูกนำมาใช้เป็นไม้ที่สำคัญ ในการประกอบตัวเรือของกองทัพเรือ ในสมัยก่อนเลยทีเดียว
    
ประดู่นั้น หมายถึง ความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ จะก่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ของความร่วมมือร่วมใจกันสืบไป
    
ดังนั้น คนโบราณจึงนิยมปลูกต้นประดู่ เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกทุกคนในบ้าน มีความรักใคร่สามัคคี โดยที่ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน บ้านทั้งหลัง จึงมีแต่ความสงบสุข ทุกคนจะร่วมมือร่วมแรงใจกันเสมอ ราวกับดอกของต้นประดู่ ที่มักจะระดมกำลังกันผลิบาน จนกลายเป็นสีเหลืองไปทั่วทั้งต้น
    
นอกจากนั้น ประดู่ยังมีประโยชน์ในการสรรค์สร้างเสียงดนตรีได้อีกด้วย เพราะแก่นของต้นประดู่นั้น แข็งแกร่งมาก คนโบราณจึงนำมาประดิษฐ์เป็นระนาด ที่ให้ความบันเทิงแก่ชาวไทยทุกคน มาเป็นเวลาช้านานแล้ว